Category: สุขภาพและความงาม

ปัญหาสิวที่ก้น

ปัญหาสิวที่ก้น อาจก่อให้เกิดอาการคันและระคายเคือง อาจหายได้เองภายใน 2 สัปดาห์ แต่หากรู้สึกไม่สบายตัวหรืออาการยังคงอยู่เป็นระยะเวลานานอาจทำตามวิธีดังต่อไปนี้เพื่อบรรเทาอาการที่เกิดขึ้น

ควรล้างผิวให้สะอาด การอาบน้ำและล้างผิวบริเวณก้นให้สะอาดเป็นวิธีสำคัญที่ป้องกันการติดเชื้อ และอาจจะเลือกใช้สบู่ต้านเชื้อแบคทีเรีย เพราะการล้างบริเวณดังกล่าวอาจช่วยขจัดสิ่งสกปรกต่าง ๆ รวมทั้งแบคทีเรียที่เกิดจากเหงื่อออกได้ด้วย

ควรจะอาบน้ำทันทีหลังออกกำลังกายหรือใช้บริการอ่างน้ำสาธารณะ อย่างเช่น สระว่ายน้ำ หรือสปา เป็นต้น เพื่อไม่ให้เหงื่อหรือสิ่งสกปรกที่มากับน้ำไปอุดตันรูขุมขนจนเกิดการอักเสบ ซึ่งอาจก่อให้เกิดสิวและปัญหารอยดำคล้ำตามมาได้

ทาทีทรีออยล์ หรืออาจเลือกใช้โลชั่น ครีม หรือคลีนเซอร์ที่มีส่วนผสมของทีทรีออยล์ เพราะมีงานวิจัยที่พบว่าน้ำมันสกัดชนิดนี้อาจมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและรักษาสิวได้

ซับผิวด้วยน้ำเกลือ คือ นำเกลือ 1 ช้อนชามาผสมกับน้ำสะอาดประมาณ 2 แก้ว จากนั้นนำผ้าขนหนูสะอาดไปชุบให้ชุ่มและซับในบริเวณที่เป็นสิว เพราะน้ำเกลืออาจช่วยรักษาอาการติดเชื้อที่ไม่รุนแรงได้

ใช้ครีมสังกะสี การที่เราเลือกใช้ครีมที่มีส่วนผสมของสังกะสีหรือซิงก์ อาจช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ ของสิวได้

นั่งทับผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่น ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นที่ไม่ร้อนจนเกินไปแล้วนำมารองนั่ง เพราะอาจช่วยเปิดรูขุมขนให้กว้างขึ้น ระบายหนอง และขจัดแบคทีเรียออกไปได้ หรืออาจนั่งแช่ในน้ำอุ่นได้เช่นเดียวกัน

ผลัดเซลล์ผิว โดยใช้ใยบวบขัดผิวหรือใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวชนิดอ่อน เพื่อกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและป้องกันการเกิดปัญหารูขุมขนอุดตันหรือติดเชื้อได้

เปลี่ยนผลิตภัณฑ์ซักผ้า เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ปลอดสารก่ออาการแพ้ เพราะผู้ที่ผิวแพ้ง่ายบางรายอาจไวต่อสารเคมีต่าง ๆ ในผลิตภัณฑ์ซักผ้า อย่างเช่น ผงซักฟอก หรือน้ำยาปรับผ้านุ่ม เป็นต้น ซึ่งหากเกิดอาการแพ้ คัน ระคายเคือง หรืออักเสบ ก็อาจทำให้เป็นสิวที่ก้นได้

ไม่ควรสวมกางเกงที่รัดหรือคับจนเกินไป ควรจะเลือกกางเกงที่หลวมพอเหมาะ ระบายอากาศได้ดี ไม่กักเหงื่อ และทำจากผ้าฝ้าย โดยเฉพาะกางเกงชั้นใน…

สาเหตุของสิวที่ก้น

สาเหตุของสิวที่ก้น ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Staphylococcus ที่มักจะอาศัยอยู่ตามผิวหนัง และเข้าสู่ร่างกายผ่านทางบาดแผลต่าง ๆได้ จนทำให้ติดเชื้อ หรืออาจเกิดจากปัญหารูขุมขนอักเสบจากสาเหตุต่าง ๆ อย่างเช่น เชื้อรา ขนคุด การใช้ยาบางชนิด หรืออาจเกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนผสมของน้ำมัน

ซึ่งนอกจากนี้ สิวที่ก้นอาจเกิดได้จากปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ดังต่อไปนี้

1.สวมกางเกงหรือกางเกงชั้นในที่สกปรก และชุ่มเหงื่อ หรืออาจจะรัดแน่นจนเกินไป
2.แพ้สารในผลิตภัณฑ์ซักผ้า หรืออาจเป็นน้ำยาปรับผ้านุ่ม
3.ใช้บริการอ่างน้ำหรือสระว่ายน้ำสาธารณะที่ไม่สะอาดเท่าที่ควร รวมถึงสระที่ไม่ได้ใส่คลอรีนเพื่อฆ่าเชื้อโรคนั่นเอง
4.กำลังเจ็บป่วย อย่างเช่น เป็นโรคเบาหวาน หรือติดเชื้อเอชไอวี เป็นต้น เพราะอาจส่งผลให้ร่างกายมีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับเชื้อโรคได้ต่ำกว่าปกติ…

สิวที่ก้น รับมืออย่างไร

สิวที่ก้น รับมืออย่างไร สิวที่ก้นอาจจะเกิดขึ้นได้ในจากหลายปัจจัย อย่างเช่น ใส่กางเกงที่รัดเกินไป ว่ายน้ำในสระที่ไม่สะอาด หรืออาจใช้ผลิตภัณฑ์บางอย่างที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองและอุดตันรูขุมขน เป็นต้น ซึ่งในบางครั้งก็อาจทำให้เกิดรอยดำคล้ำจากสิวตามมาได้ด้วย แต่ปัญหาดังกล่าวก็อาจจะจัดการได้ง่าย ๆ โดยใช้วัตถุดิบที่หาได้ในบ้าน หรืออาจจะไปปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาอื่น ๆ เพิ่มเติมแล้วแต่กรณี…

ป้องกันสิวอุดตัน ด้วยวิธีนี้

ป้องกันสิวอุดตัน สิวอุดตันอาจป้องกันได้ด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดสิว อย่างเช่น

1.การรักษาความสะอาดบนใบหน้า ล้างหน้าอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ด้วยน้ำสะอาดและผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิวหน้า และไม่มีน้ำมันเป็นส่วนผสม เพื่อกำจัดไขมันและสิ่งสกปรกที่อุดตันบนผิวหนัง หลีกเลี่ยงการล้างหน้าบ่อยจนเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้
2.การเลือกใช้สินค้าที่มีส่วนประกอบของตัวยาเบนโซอิล เพอร์ออกไซด์ หรือกรดซาลิไซลิคเพื่อลดความมันบนใบหน้าและผิวหนัง
3.การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางที่ช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า โดยต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและได้รับมาตรฐานการรับรองอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะเครื่องสำอาง ควรเลือกใช้สิ่งที่มีสัญลักษณ์ระบุบนฉลากว่า ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน
4.การล้างเครื่องสำอางออกให้หมดก่อนเข้านอน ไม่นอนหลับไปพร้อมกับเครื่องสำอาง
5.การที่ไม่ให้เส้นผมปกปิดผิวหน้า เนื่องจากแชมพูบางชนิดที่มีส่วนประกอบของน้ำมัน อาจอุดตันรูขุมขนใต้ผิวหนัง จนทำให้เกิดสิวได้
6.ต้องไม่บีบสิว ไม่สัมผัสใบหน้า หรือผิวหนังบริเวณที่เป็นสิว เพราะจะเพิ่มโอกาสในการเกิดสิวขึ้นมาอีก และเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือเกิดรอยแผลเป็นบนผิวหนังด้วย
7.ควรหลีกเลี่ยงแสงแดด ควรสวมใส่เครื่องแต่งกายปกปิดผิวเพราะแสงแดดอาจมีผลกระทบทำให้เกิดสิวได้ จึงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดจ้าหรือได้รับแสงแดดเป็นเวลานาน…

ทำความรู้จักกับ ผดขึ้นหน้า กับระดับความรุนแรง

ทำความรู้จักกับ ผดขึ้นหน้า ผดขึ้นหน้า ได้แบ่งออกเป็น 4 ชนิด ตามระดับความรุนแรงของอาการและความลึกของการอุดตัน อันได้แก่

ชนิดที่หนึ่งคือ มิลิอาเรีย คริสตัลลินา คือผดชนิดรุนแรงน้อยที่สุด เกิดอาการขึ้นที่ชั้นผิวด้านบนสุด ซึ่งผดจะมีลักษณะเป็นตุ่มน้ำใส ๆ ที่แตกออกโดยง่าย

ชนิดที่สองคือ มิลิอาเรีย รูบรา หรือ ผดแดง เกิดอาการขึ้นที่ผิวหนังชั้นนอกส่วนที่ที่ลึกลงไป มีลักษณะเป็นตุ่มแดงเล็ก ๆ ที่ทำให้เกิดอาการคันหรือชายิบ ๆ ตามผิวหนังในบริเวณที่เกิดผด

ชนิดที่สามคือ มิลิอาเรีย โพรฟันดา เกิดอาการขึ้นที่ผิวหนังชั้นใน หรือชั้นหนังแท้ มีลักษณะเป็นตุ่มสีแดงระเรื่อ ซึ่งเป็นเหงื่อที่อุดตันอยู่ภายในชั้นผิว มีลักษณะคล้ายตุ่มผิวหนังในขณะที่ขนลุก ทำให้รู้สึกไม่สบายตัว คันยิบ ๆ หรือเจ็บปวดคล้ายถูกเข็มตำ

ชนิดที่สี่คือ มิลิอาเรีย พัสตูโลซา หรือ ผดหนอง เป็นการอักเสบหรือการติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณที่เป็นผด ผดที่เกิดจะปรากฏเป็นตุ่มที่มีหนองอยู่ภายใน…

ผดขึ้นหน้า เกิดขึ้นได้อย่างไร?

ผดขึ้นหน้า หรือผดร้อน ก็คือ ผดผื่นคันที่ปรากฏขึ้นเป็นแถบบนใบหน้า เกิดจากความผิดปกติในการทำงานของต่อมเหงื่อใต้ผิวหนัง ซึ่งนอกจากบริเวณใบหน้าแล้ว ในผู้ใหญ่ อาจจะพบ

ผดขึ้นตามบริเวณผิวหนังที่มีรอยย่นเป็นชั้น ๆ หรือบริเวณผิวหนังที่เกิดการเสียดสีกับเสื้อผ้าหรือเครื่องแต่งกายบ่อย ๆ ส่วนในเด็กนั้น มักพบผดขึ้นตามลำคอ ไหล่ หน้าอก รักแร้ ข้อพับ

ศอก หรืออาจพบตามขาหนีบ ถึงแม้ไม่ใช่อาการป่วยที่ร้ายแรง แต่ผดขึ้นหน้าก็สามารถสร้างปัญหาทำให้เกิดอาการคัน รู้สึกไม่สบายตัว และสูญเสียความมั่นใจไปไม่น้อย และเนื่องด้วยสภาพอากาศเมืองไทยที่อยู่ในเขตร้อนชื้น หลายคนจึงอาจวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาผดขึ้น

หน้า อย่างไรก็ตาม หากเรามีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับผดขึ้นหน้า ย่อมเป็นโอกาสที่ดีในการเตรียมความพร้อมป้องกัน รับมือ หรือรักษา เมื่อต้องเผชิญปัญหานี้ด้วยตัวเอง…

โยเกิร์ตผสมเกลือ

โยเกิร์ตผสมเกลือ ซึ่งนอกจากจะพอกหน้าแล้ว ก็ยังเป็นการสครับใบหน้าด้วยนะ โดยสำหรับ

สูตรนี้ เพียงนำโยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย ผสมกับเกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน อย่าคน

เพลินจนเกลือละลายเดี๋ยวจะไม่ได้สครับ แล้วนำมาทาบนใบหน้า ขัดๆ วนๆ ไปเรื่อยๆ 3-5

นาที จากนั้นพอกทิ้งไว้ต่อ 5-10 นาที เว้นบริเวณรอบดวงตาและริมฝีปาก เสร็จแล้วล้างออก

ให้สะอาด ให้ความรู้สึกถึงใบหน้าที่ขาวกระจ่างใส สะอาดมากยิ่งขึ้น…

พอกหน้าฟักทอง สูตรกระจ่างใส

พอกหน้าฟักทอง สิ่งที่ต้องเตรียมก็คือ ฟักทอง และน้ำเปล่า วิธีการทำก็คือนำฟักทองไปต้ม

จนสุกแล้วนำมาบดให้ได้เนื้อประมาณ ½ ถ้วยตวง ผสมน้ำเพียงเล็กน้อย นำมาพอกให้ทั่ว

ใบหน้า เว้นบริเวณรอบดวงตา ทิ้งไว้ประมาณ 10 – 15 นาที แล้วจึงล้างออกให้สะอาดด้วย

น้ำอุ่น เพียงเท่านี้ ก็จะมีผิวหน้าที่เนียนนุ่มเด้งกันเลยทีเดียว เพราะในฟักทองนั้นมีสารอาหาร

กับวิตามินเอซึ่งเหมือนเป็นการเติมอาหารให้กับผิวนั่นเองคะ…

พอกหน้า กล้วยหอม ผิวหน้าเนียนนุ่ม

พอกหน้า กล้วยหอม สิ่งที่ต้องเตรียมก็คือกล้วยหอมสุก

วิธีการคือนำกล้วยหอมสุกมาบดให้ละเอียดเป็นเนื้อ นำมาพอกให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด โดยกล้วยหอมมีสรรพคุณในการแก้ไขปัญหาผิวได้หลายอย่าง ทั้งยังช่วยให้ผิวหน้าเนียนนุ่มและกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ…

เป้าหมายสุขภาพ เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวคุณ

เป้าหมายสุขภาพ เลือกกินไม่ตามใจปาก โดยไม่คำนึงถึงเรื่องสุขภาพ ก็ควรหยุด แล้วเริ่มต้นใหม่เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ ไม่ตามใจตัวเอง เลี่ยงอาหารไขมันสูง รสเค็มจัด หวานจัด หรือแม้แต่เครื่องดื่มที่ทำร้ายสุขภาพ

ควร ออกกาลังกายกันบ้าง อย่างน้อยก็อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง เพราะการออกกำลังกายช่วยให้สุขภาพดีอีกทั้งยังป้องกันเรื่องโรคต่างๆ ที่จะเข้ามาเยือนเราในอนาคตอีกด้วย

ควบคุมน้ำหนัก เริ่มจากการเลือกอาหารที่แคลอรี่ต่ำ อย่าง อาหารจำพวกเนื้อปลา ผัก ผลไม้ เพราะอาหารเหล่านี้นอกจากจะช่วยควบคุมเรื่องน้ำหนักไม่ให้เกินมาตรฐานแล้ว ยังช่วยเรื่องการขับถ่ายของคุณให้ดีขึ้นด้วย

นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ คนจำนวนมากที่พักผ่อนไม่ถึง 5 ชั่วโมงต่อวัน รู้หรือไม่ จริงๆ แล้วร่างกายเราควรได้รับการพักผ่อนอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน ถ้าหากเป็นไปได้ ควรเข้านอนก่อน 4 ทุ่มครึ่ง เพราะเวลานั้นสมองจะหลั่งสารต่างๆ ขณะที่เราหลับออกมาเพื่อฟื้นฟูร่างกาย เมื่อตื่นนอนมาแล้วจะสัมผัสได้ถึงความสดชื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ควรตรวจสุขภาพประจาปี ซึ่งไม่ว่าจะวัยไหน เพศไหน เมื่อพูดถึงการตรวจสุขภาพประจำปีมักจะทำหน้าสะอิดสะเอียน ปฏิเสธที่จะตรวจกันเป็นจำนวนมาก เหตุผลที่คิดว่า เราแข็งแรงดีอยู่แล้ว ไม่ได้ป่วยไม่จำเป็นต้องตรวจ แต่รู้ไหม บางโรคระยะแรกๆ ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมา หากว่า คุณได้ตรวจร่างกายประจำปีแล้วบังเอิญอาจพบโรคนั้นก่อนก็จะช่วยให้รักษาหายได้ทันเวลา…